เอคอมเมิร์ซ กรุ๊ปยื่นไฟลิ่งขาย IPO จำนวน 1,942.42 ล้านหุ้น เล็งเข้าจดทะเบียนใน SET

เศรษฐกิจ (ในประเทศ - ต่างประเทศ)

บมจ.เอคอมเมิร์ซ กรุ๊ป ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมารกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนรวมไม่เกิน 1,942,422,738 หุ้น ประกอบด้วย หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัท 971,211,369 หุ้น คิดเป็น 20% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยเอคอมเมิร์ซ กรุ๊ป ลิมิเต็ด 971,211,369 หุ้น คิดเป็น 20% รวมทั้งหมดคิดเป็น 40% โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

บริษัทจะนำหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในกลุ่มธุรกิจดิจิทัล/อีคอมเมิร์ซ โดยมีวัตถุประสงค์ในการระดมทุนเพื่อใช้สำหรับการเข้าซื้อกิจการที่อาจมีขึ้นในอนาคต เพื่อขยายขอบเขตทางภูมิศาสตร์สู่ตลาดใหม่ เช่น เวียดนาม และมาเลเซีย รวมทั้งเสนอตัวเลือกเพิ่มเติมสำหรับการให้บริการ และพิจารณารวมกิจการกับธุรกิจที่เอื้อประโยชน์ในตลาด และเสริมขีดความสามารถทางเทคโนโลยีของบริษัทฯ

นอกจากนั้น จะใช้เป็นเงินทุนเพื่อการขยายธุรกิจ ใช้เป็นเงินลงทุนในแพลตฟอร์ม EcommerceIQ และเทคโนโลยีในด้านอื่นๆ เพื่อขยายขอบเขตคุณสมบัติ (Feature) และผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ (Solution) และใช้ลงทุนในระบบอัตโนมัติสำหรับกระบวนการภายในบางอย่าง ใช้พัฒนาแพลตฟอร์ม EcommerceIQ SaaS และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

เอคอมเมิร์ซ กรุ๊ป เป็น Holding Company ที่ประกอบธุรกิจหลักในการให้บริการสนับสนุนการประกอบธุรกิจด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (อีคอมเมิร์ซ) อย่างครบวงจร รวมถึงการให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์ (E-commerce Strategy Consulting) การพัฒนาร้านค้าออนไลน์ (Webstore Development) การดำเนินการร้านค้าแบรนด์ (Brand Store Operations) การทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ (Performance Marketing) คลังสินค้าและบริการคลังสินค้าครบวงจร (Warehousing and Fulfillment) การรับชำระเงินและการจัดส่งสินค้า (Payment and Delivery) ศูนย์บริการและดูแลลูกค้า (Customer Care Solutions) และการวิเคราะห์ข้อมูลและการให้ข้อมูลในเชิงลึก (Data Analytics and Insights)

บริษัทประกอบกิจการอยู่ใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และ มาเลเซีย โดยในประเทศไทยเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่และของแพลตฟอร์มเทคโนโลยี (Technology Platform) ซึ่งมีการใช้งานร่วมกันสำหรับทั้งภูมิภาค

ณ วันที่ 3 ธ.ค.64 ACOM HK ถือหุ้นใน ACOM จำนวน 3,715,845,460 หุ้น คิดเป็น 99.9% ของหุ้นทั้งหมด โดยโครงสร้างการถือหุ้นใน ACOM HK มี DKSH China (Holding) Limited เป็นผู้ถือหุ้นหลัก 21.50% และ Sealine Pte Ltd 21.23%

ผลการดำเนินงานในช่วงปี 61-63 บริษัทมีรายได้รวม 2,988.5 ล้านบาท 4,601.5 ล้านบาท และ 7,292.8 ล้านบาทตามลำดับ ขณะที่มีผลขาดทุน (958.8) ล้านบาท (652.7) ล้านบาท และ (83.1) ล้านบาท

ส่วนงวด 9 เดือนแรกของปี 64 (ยังไม่ผ่านการตรวจสอบ) บริษัทมีรายได้รวม 6,339.7 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรวม 6,763.2 ล้านบาท ขาดทุน (492.6) ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 206.3 ล้านบาท เป็นผลจากเงินกู้ยืมภายในกิจการระหว่างบริษัทกับบริษัทย่อยซึ่งอยู่ในสกุลเหรียญสหรัฐ โดยบริษัทอยู่ระหว่างการแปลงเงินกู้ยืมดังกล่าวเป็นเงินสกุลบาทภายในปลายปี 64 คาดว่าจะทำให้ผลขาดทุนทางบัญชีจากการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนดังกล่าวจะลดลง

ณ วันที่ 30 ก.ย.64 (ยังไม่ผ่านการตรวจสอบ) บริษัทมีสินทรัพย์รวม 2,411.8 ล้านบาท หนี้สินรวม 2,250.9 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 160.9 ล้านบาท

ทั้งนี้ นโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัท คณะกรรมการบริษัทอาจพิจารณาการจ่ายเงินปันผลประจำปี โดยจะต้องนำเสนอเพื่อขออนุมัติต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น เว้นแต่เป็นการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ซึ่งคณะกรรมการบริษัทมีอำนาจอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลได้และให้รายงานให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นทราบในการประชุมคราวต่อไป

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket