เริ่มแล้วอย่างคึกคักกับมาตรการช้อปดีมีคืน ของภาครัฐ 1 ใน 7 มาตรการหลักที่ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ เข้าสู่วันที่ 4 ของปีแล้ว บรรดาค้าปลีกระดมทัพแคมเปญดูดเงินนักชอป
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นฟูเศรษฐกิจปี 2565 หรือที่เรียกง่ายๆ ว่า มาตรการของขวัญปีใหม่ปี 65 ของรัฐบาลที่ประกาศเมื่อสิ้นปีที่แล้ว (2564) ซึ่งจะเริ่มมีผลปีนี้ ที่มีถึง 7 มาตรการหลัก ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ มาตรการช้อปดีมีคืน ที่ถือว่าเป็นที่ต้องการของประชาชนอย่างมาก เพื่อที่จะจับจ่ายสินค้าต่างๆ และสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ เรียกว่าเป็นมาตรการที่เคยใช้และได้ผลโดนใจผู้บริโภคมาแล้ว
ขณะที่ทางฟากผู้ค้าเองโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจค้าปลีกค้าส่งต่างๆ ดูเหมือนว่าจะได้รับผลดีจากมาตรการนี้แบบเต็มๆ และต่างก็เรียกร้องให้รัฐบาลนำมาตรการนี้กลับมาใช้อีกอย่างต่อเนื่องเพราะเห็นว่าเป็นมาตรการที่สร้างการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ หลักการของช้อปดีมีคืน คือ ให้ผู้บริโภคนำรายจ่ายการซื้อสินค้าบริการต่างๆ มาหักลดหย่อนภาษีตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-15 กุมภาพันธ์ 2565 โดยคาดว่าครั้งนี้จะมีผู้มาใช้สิทธิ์ช้อปดีมีคืนประมาณ 1.4 ล้านราย มีผลต่อการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภงด.) ประมาณ 6,200 ล้านบาท แต่คาดว่าจะสามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้มากถึง 42,000 ล้านบาท ส่งผลดีที่จะทำให้เศรษฐกิจโดยรวมมีการขยายตัว 0.12% และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีมูลค้าเพิ่ม (VAT) มากขึ้นด้วย
นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวก่อนหน้านี้ว่า มาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ที่จะเริ่มในต้นปี 2565 ถือเป็นการเริ่มต้นและเป็นกระสุนทางเศรษฐกิจนัดแรกในการอัดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทยที่มีประสิทธิภาพ สนับสนุนการใช้จ่ายของผู้คนได้ตรงจุด และยังเป็นการส่งเสริมมาตรการท่องเที่ยวของรัฐให้เกิดประสิทธิผลยิ่งขึ้น คาดการณ์ว่าจะมีเงินสะพัดเข้าไปในระบบเศรษฐกิจกว่า 4-5 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่สามารถลดหย่อนภาษีได้จำนวน 3.7-4.0 ล้านคนทั่วประเทศ คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมโครงการ 1.5-2.0 ล้านราย คาดการณ์เงินสะพัดรวมอยู่ที่ 4-5 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ GDP เติบโตขึ้นถึง 0.15%
“ความไม่แน่นอนของการแพร่ระบาดของโอมิครอน ที่อาจมีการควบคุมการเปิดรับนักท่องเที่ยวไม่ให้เข้ามาในประเทศ มาตรการช้อปดีมีคืนนี้จะเป็นมาตรการสำคัญในการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศและสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีได้เป็นอย่างดี ช่วยเร่งการฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็วและเร่งด่วน แต่สิ่งจำเป็นที่จะทำให้เราไม่ต้องเผชิญการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ เราทุกคนต้องยกระดับการป้องกันแบบ Universal Prevention ขั้นสูงสุด การ์ดต้องไม่ตก” นายญนน์กล่าว
แน่นอนว่าบรรดาค้าปลีกต่างๆ ก็พร้อมและงัดแคมเปญเพื่อกระตุ้นตลาดกันอย่างเต็มที่เพื่อที่จะช่วงชิงกำลังซื้อยามนี้ให้มากที่สุด หลังจากที่ผ่านมาเข้าสู่วันที่ 4 ของปีใหม่ 2565 และของมาตรการนี้แล้วด้วยบรรยากาศที่เป็นไปอย่างคึกคัก
*** “วันสยาม-ไอคอนสยาม” อัดแคมเปญ
นางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ และหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม เปิดเผยว่า โครงการช้อปดีมีคืน เป็นมาตรการของภาครัฐที่มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศที่สำคัญในช่วงต้นปี 2565 และสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีได้เป็นอย่างดี
ในนามของกลุ่มวันสยาม ซึ่งประกอบไปด้วย ศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ รวมถึงไอคอนสยาม ได้เตรียมความพร้อมเพื่อช่วยกระตุ้นการจับจ่ายอย่างเต็มที่ ด้วยการระดมแคมเปญโปรโมชันเพื่อมอบสิทธิประโยชน์และเพิ่มมูลค่าให้การชอปปิ้งแก่ลูกค้าด้วยแคมเปญพิเศษ “ONESIAM ช้อปดีมีคืน” ระหว่างวันที่ 1 มกราคม-15 กุมภาพันธ์ 2565 เพียงชอปครบ 10,000 บาท ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ รวบรวมใบกำกับภาษีมาแลกรับทันที Siam Gift Card มูลค่า 1,000 บาท รวม 4 ศูนย์การค้ามอบสิทธิ์ให้แก่ลูกค้าจำนวนถึง 3,000 สิทธิ์ตลอดรายการ
ทั้งนี้ ผู้ที่ซื้อสินค้าและบริการตามจำนวนจ่ายจริงแต่รวมกันไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน สามารถนำใบกำกับภาษีจากผู้ประกอบการ ระหว่างวันที่ 1 มกราคม-15 กุมภาพันธ์ 2565 นำไปใช้เป็นหลักฐานในการลดหย่อนภาษีประจำปี 2565 โดยทั้ง 4 ศูนย์การค้าของกลุ่มวันสยามและไอคอนสยามได้เตรียมความพร้อมและอำนวยความสะดวกในการออกใบกำกับภาษีให้มีความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น
*** “ห้างเซ็นทรัล-โรบินสัน” ยกทัพจัดเต็ม
นางสาวรวิศรา จิราธิวัฒน์ ประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด และบริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “ห้างเซ็นทรัล และโรบินสัน เรามีจุดยืนที่ชัดเจนคือการมอบสินค้าและบริการที่ครบทุกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกค้าเสมอมา วันนี้เราจึงตอบรับจัดแคมเปญ “Central & Robinson ช้อปดีมีคืน” ที่นับเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ให้คนไทย และยังเป็นแคมเปญที่ออกมารองรับการจับจ่ายในช่วงต้นปีที่ลูกค้ามักมองหาของขวัญให้กัน
“เรามองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐครั้งนี้ เป็นเรื่องดีทั้งต่อประชาชนเพราะได้นำไปลดหย่อนและคืนภาษี และต่อผู้ประกอบการเองก็สามารถขับเคลื่อนธุรกิจต่อไปได้ ซึ่งในส่วนของห้างเซ็นทรัล และโรบินสัน นอกจากชอปลดหย่อนภาษีสูงสุด 30,000 บาท และรับคืนภาษีสูงสุด 10,500 บาท ที่ลูกค้าสามารถนำใบเสร็จไปออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบที่จุดบริการลูกค้า ที่ห้างเซ็นทรัล และโรบินสันทุกสาขาแล้ว ทางห้างฯ ยังมอบโปรโมชันพิเศษเพิ่มความคุ้มค่าสูงสุดแก่นักชอป ทั้งรับคูปองแทนเงินสดเพิ่มสูงสุด 1,600 บาท (เมื่อชอปครบตามเงื่อนไข) สินค้าแบรนด์ชั้นนำลดสูงสุด 50% และสิทธิพิเศษจากบัตรเครดิตชั้นนำอีกมากมาย เพื่อสร้างรอยยิ้มให้ทุกคนได้ชอปอย่างคุ้มค่าที่สุดเช่นเคย”
พร้อมกันนี้ ลูกค้าห้างเซ็นทรัล และโรบินสันยังสะดวกไปอีกขั้นกับหลากหลายการชอปปิ้งของห้างฯ ที่เข้าร่วมแคมเปญนี้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้านที่ห้างเซ็นทรัล และโรบินสันใกล้บ้านคุณ ชอปผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้ง Central App, เว็บไซต์ www.central.co.th, ชอปผ่านแชตกับ Central / Robinson Chat & Shop, โทร.ชอปกับ Central / Robinson Personal Shopper On Demand โทร. 1425 หรือชอปผ่านเฟซบุ๊กเพจ Central Department Store และ Robinson Department Store
*** “เซเว่นอีเลฟเว่น” ออกใบกำกับภาษีผ่านแอปฯ ได้
จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคนไทย ซึ่งที่ผ่านมาเซเว่น อีเลฟเว่นได้จัดลดราคาสินค้า พร้อมมอบสิทธิพิเศษให้แก่ผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ยังคงเดินหน้าช่วยคนไทยลดค่าครองชีพ เลือกสินค้าราคาประหยัดและคุ้มค่าในการจับจ่ายใช้สอยมาให้ลูกค้ามากมาย
ล่าสุดจัดโปรโมชันใหญ่ ลดสูงสุดถึง 77% ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-15 กุมภาพันธ์ 2565 โดยคัดสรรสินค้าอุปโภคบริโภคหลากหลายประเภทที่เป็นสินค้าขายดีและได้รับความนิยม ทั้งอาหาร ของใช้ในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไอที เครื่องครัว ที่นอน ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ ของใช้ในชีวิตประจำวัน และกระเช้าของขวัญ รวมกว่า 80,000 รายการ
นอกจากนี้ มีโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าที่จับจ่ายใช้สอยบน ALL ONLINE (ออลล์ ออนไลน์) ครบ 10,000 บาทขึ้นไป และระบุโค้ดส่วนลด SDJ1 จะได้รับส่วนลดทันที 1,000 บาท (1 คน / 1 สิทธิ์) ตั้งแต่วันที่ 1-23 มกราคม 2565 สามารถขอใบกำกับภาษีได้ตั้งแต่ขั้นตอนการสั่งซื้อ
พร้อมกันนี้ เซเว่น อีเลฟเว่นได้เข้าร่วมโครงการของรัฐบาล “ช้อปดีมีคืน” เพียงเลือกซื้อสินค้าภายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ทั่วประเทศ, สั่งสินค้าผ่านเซเว่น ดีลิเวอรี หรือ ALL ONLINE (ออลล์ ออนไลน์) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-15 กุมภาพันธ์ 2565 สามารถขอใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปี 2565 ตามยอดที่ซื้อจริง สูงสุด 30,000 บาท โดยเงื่อนไขการรับเงินคืนขึ้นอยู่กับฐานอัตราการเสียภาษีของแต่ละบุคคล และสามารถแจ้งพนักงานเพื่อขอใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปได้ที่เคาน์เตอร์ชำระสินค้า หรือในกรณีที่ผู้บริโภคเป็นสมาชิก All Member สามารถออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้ง่ายๆ ด้วยตนเองผ่าน 7 App
ทางด้านเดอะมอลล์ กรุ๊ป ก็ขานรับนโยบายรัฐบาลกับมาตรการช้อปดีมีคืน ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 65-15 ก.พ. 65 โดยชอปสูงสุด 30,000 บาท รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนจริง คืนภาษีให้นักชอปสูงสุด 10,500 บาท(ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอัตราเงินได้สุทธิที่เสียภาษี) ที่ เดอะมอลล์ ทุกสาขา, ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และ พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์
อ้างอิง
https://m.mgronline.com/business